นางบุษบา

นางบุษบา เป็นธิดาของท้าวดาหาและประไหมสุหรีดาหราวาตี แห่งกรุงดาหา เมื่อตอนประสูติมีเหตุอัศจรรย์คือ มีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งวัง ดนตรี   แตรสังข์ก็ดังขึ้นเองโดยไม่มีผู้บรรเลง และเมื่อ ประสูติได้ไม่นาน ท้าวกุเรปันก็ขอตุนาหงันให้กับอิเหนา ทั้งนี้ นางบุษบาเป็นหญิงที่งามล้ำเลิศกว่านางใดใน  แผ่นดินชวา กิริยามารยาทเรียบร้อย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทันคน ใจกว้างและมีเหตุผล จึงทำให้อิเหนารักใคร่หลงใหลนางยิ่งกว่าหญิงใด                                  
            ทว่า นางถูกเทวดาบรรพบุรุษของวงค์อสัญแดหวา คือ องค์ปะตาระกาหลาบันดาลให้ลมพายุหอบไป ทำให้นางต้องพลัดพรากจากอิเหนาเป็นเวลาหลายปีก  ว่าจะได้พบอิเหนาและวิวาห์กัน โดยนางได้ตำแหน่งเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้าย ทั้งนี้ การที่นางยอมให้อิเหนายกนางจินตะหราเป็นประไหมสุหรีฝ่ายขวาแต่โดยดี       ด้วยเห็นว่านางจินตะหราเป็นผู้มาก่อน แม้ว่าจินตะหราจะไม่ใช่วงศ์เทวัญ ซึ่งข้อนี้ยากที่จะหาหญิงใดเสมอเหมือนและนับว่านางบุษบาเป็นหญิงไทยในวรรณคดีที่   สมบูรณ์ด้วยคุณสมบัติคนหนึ่ง 
 ลักษณะนิสัย
   1.  บุษบาเป็นหญิงที่มาแบบฉบับของลูกที่ดีอยู่ในโอวาทของพ่อแม่ แม้ว่านางจะไม่พอใจ ในรูปร่างของจรกาแต่นางก็ยอมที่จะไม่ทำตามใจตนเองเพื่อรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล
   2.  เป็นคนไม่เจ้ายศเจ้าอย่างหรือถือว่าตนสูงศักดิ์กว่านางจินตะหรา  เห็นได้จากตอนที่     จินตะหราได้ให้นางสการะวาตีและนางมาหยารัศมีมาเฝ้า  บุษบาก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
   3.  เป็นคนไม่เหลาะแหละ  รู้จักโต้เถียงแสดงความฉลาดรู้ทันอิเหนาและรักษาเกียรติของตนเองไม่ยอม หลงเชื่ออย่างง่าย ๆ  ในตอนที่อิเหนาพูดว่า 
         “อันนางจินตะหราวาตี     ใช่พี่จะมุ่งมาดปรารถนา 
          หากเขาก่อก่อนอ่อนมา     ใจพี่พาลาก็งวยงง……”
(บทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
จากที่อิเหนาพูดนี้ก็ทำให้นางบุษบารู้ว่าอิเหนาเจรจาเข้าข้างตัวเอง  นางก็โต้ตอบว่าอย่ามาแกล้งพูดเลยว่าจะไม่เลี้ยงนางจินตะหราวาตี  เพราะมีลายลักษณ์อักษรและใคร ๆ  ก็รู้กันทั่วว่าอิเหนาไม่ต้องการนาง  นางจึงโต้ตอบเมื่ออิเหนาแก้ตัวว่าที่ลักนางมาก็ด้วยความรักว่า
            “จะให้เชื่อพจมานหวานถ้อย     จะได้ไปเป็นน้อยชาวหมันหยา
            เขาจะเชิดชื่อฤาชา                   ว่ารักสามีท่านกว่าความอาย
             อันความอัปยศอดสู                 จะติดตัวชั่วอยู่ไม่รู้หาย
              ร้อนใจอะไรเล่าเจ้าเป็นชาย     ไม่เจ็บอายขายหน้าก็ว่าไป
(บทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
 และตอนที่นางบวชเป็นแอหนัง  (ชี )  แล้วถูกปันหยีขโมยกริชไป นางก็คร่ำครวญต่อว่าพี่เลี้ยงด้วยความรักเกียรติสตรีว่า 
                “พี่แกล้งเป็นใจด้วยปันหยี       เห็นคนอื่นดียิ่งกว่าข้า
                 ในถ้อยคำที่ร่ำพรรณนา          ว่าแสนเสน่หาอิเหนานัก
                 เป็นไฉนจึงยกน้องให้            แก่ชาวไพร่ต่ำช้าบรรดาศักดิ์
                 กระนี้ฤาพี่เรียกว่ารัก            พึ่งจะประจักษ์ในน้ำใจ
                 สู้ตายชายอื่นมิให้ต้อง            อันจะมีผัวสองอย่าสงสัย
                 ถึงมาตรแม้นชีวันจะบรรลัย      จะตายในความซื่อสัตยา
(บทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
4.  เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองแม้ว่านางจะตกอยู่ในสภาพที่ถูกบังคับ  โดยนางไม่ยอมทำตามผู้ใหญ่  ดังตอนที่ท้าวดาหามีดำรัสให้ขึ้นมาเข้าเฝ้าอิเหนานางรู้ว่าจะให้ไปไหว้จึงเข้าไปนอนด้วยความเคืองไม่เข้าเฝ้าตามรับสั่งจนเดือดร้อนถึงมะเดหวีต้องมาจัดการแต่นางก็ไม่ออกมาโดยดี ๆ  ต้องผลักไสกัน
5.  มีความซื่อสัตย์ ได้รักษาตัวไว้รอคอยอิเหนา ดังกลอนว่า
                    “ถึงมาตรสู้ตายชายอื่นมิให้ต้อง     อันจะมีผัวสองอย่าสงสัย
                    แม้นชีวันจะบรรลัย                      จะตายในความซื่อสัตยา
(บทละครเรื่องอิเหนา  พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
6.  ไม่มีจริตแง่งอน  เมื่ออิเหนาลักพานางไปไว้ในถ้ำก็ยินยอมแต่โดยดี
7.  เมื่อเป็นชายคือ  มิสาอุณากรรณก็ปฏิบัติตนกับระตูประมอตันอย่างบิดาของตน
8.  มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ  เช่น  ระตูประมอตัน
9.  มีความกล้าหาญจนมีระตูมาขอเป็นเมืองขึ้นหลายเมือง
10.  ไม่มีความริษยาถือโกรธผู้ใด  มีน้ำใจ  เมื่อมารดาให้ไหว้นางจินตะหรา  บุษบาก็ยอมตาม ดังที่นางกล่าวกับอิเหนาว่า
           “แม้นน้องรักทักท้วงหวงหึง      พระองค์จึงห้ำหั่นเกศา
       เป็นถ้อยยำคำมั่นน้องสัญญา     เชิญเสด็จเชษฐารีบคลาไคล
(บทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
          และนางยอมให้อิเหนายกจินตะหราเป็นประไหมสุหรีฝ่ายขวาแต่โดยดีด้วยเห็นว่า นางจินตะหราเป็นผู้มาก่อนแม้ว่าจินตะหราจะไม่ใช่วงศ์เทวัญฯ
นางบุษบาเป็นธิดาของท้าวดาหาและประไหมสุหรีดาหราวาตี แห่งกรุงดาหา เมื่อตอนประสูติมีเหตุอัศจรรย์คือ มีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งวัง ดนตรี แตรสังข์ก็ดังขึ้นเองโดยไม่มีผู้บรรเลง ประสูติได้ไม่นาน ท้าวกุเรปันก็ขอตุนาหงันให้กับอิเหนา
       บุษบาเป็นหญิงที่งามล้ำเลิศกว่านางใดในแผ่นดินชวากิริยามารยาทเรียบร้อย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทันคนใจกว้างและมีเหตุผล จึงผูกใจให้อิเหนารักใคร่ใหลหลงนางยิ่งกว่าหญิงอื่น
นอกจากนั้นบุษบายังเป็นลูกที่ดีอยู่ในโอวาทของพระบิดา พระมารดา ยอมแต่งงานกับระตูจรกา แม้ว่าจะไม่พอใจในความขี้ริ้วขี้เหร่ของระตูจรกาก็ตาม
        นางถูกเทวดาบรรพบุรุษ ของวงค์อสัญแดหวาคือ องค์ปะตาระกาหลาบันดาลให้ลมพายุหอบไป ทำให้นางต้องพลัดพรากจากอิเหนา และพระบิดาพระมารดาเป็นเวลาหลายปี กว่าจะได้พบอิเหนาและวิวาห์กัน โดยนางได้ตำแหน่งเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้าย


ที่มา:https://sites.google.com/site/wwwnangniwannakadithaicom/work

ขอบพระคุณเเหล่งที่มาเป็นอย่างสูง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางเอื้อย

นางรจนา

นางโมรา